วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เกมส์เบาๆพักสมอง 7 SIREN: Blood Curse สยองสุดขั้ว ใครไม่กลัวท้าให้ลอง !!!


จากโพสที่แล้วนะครับ คราวนี้ก็จะมาพูดถึงเกมส์ลำดับต่าง ซึ่งจะไล่ไปตามลำดับกันเลย

และเริ่มด้วย เกมส์ลำดับที่ 10 


SIREN: Blood Curse สยองสุดขั้ว ใครไม่กลัวท้าให้ลอง !!!

BRUTALMETHOD: เคยรู้สึกกันบ้างไหมกับบรรยากาศที่มืดมน สถานที่ที่ไม่น่าไว้วางใจ บ้านที่เต็มไปด้วยคราบเลือด ซากปรักหักพัง พัดลมที่เปิดทิ้งไว้ รูปภาพโปสเตอร์เก่าๆ บนผนัง ทั้งหมดที่ผมเกริ่นมาได้อยู่ในเกมซีรีส์สุดสยอง Siren: Blood Curse นี้ทั้งหมดแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในภาค Blood Curse นี้ไม่ได้เป็นเชิงภาคต่อของซีรีส์ Siren ที่เหมือนกับ Siren 2 (PS2) ที่ผ่านมาครับ แต่กลับนำเอา Siren ภาคต้นฉบับกลับมาตีความใหม่ โดยได้ปรับเปลี่ยนตัวนำเรื่องใหม่ให้ดูเป็นสากลมากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนตัวเอกเป็นชาวตะวันตก จริงๆ มันอาจจะเป็นการแปลกๆ ที่เอาตัวละครฝรั่งมาใส่ในเกมสยองแบบญี่ปุ่น แต่ในที่สุดแล้วผมคิดว่ามันเป็นการผสมผสานได้ลงตัวทีเดียวครับ แบบที่หนังสยองญี่ปุ่นถูกฮอลลีวู้ดรีเมคนั่นแหละครับ ก็จะได้อารมณ์ในแบบเดียวกัน

     ตัวเกมได้ถูกเล่าเรื่องในแบบเป็นตอนๆ ในแบบหนังซีรีส์ ซึ่งจะต่างจากภาคก่อนๆ ที่เล่าเรื่องผ่านสายตาของคนแต่ละคน บทสรุปของเรื่องก็จะผูกร้อยเรียงเข้าด้วยกันเป็นเรื่องเรื่องเดียว แต่ภาคนี้มันไม่ใช่เลยครับ การเรียงเรื่องแบบซีรีส์แบบนี้ ข้อดีก็คือทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากขึ้น อยากเล่นอยากรู้เรื่องราวต่อ แต่จะขาดความสยองขวัญไปพอสมควร แต่ว่าการเล่าเรื่องแบบใหม่นี้ก็ดีในแง่ที่มันไม่ชวนงงมากไปเหมือนกับภาคก่อนๆ นัก


      ระบบของเกมนี้ส่วนมากก็จะคล้ายเดิมครับ คือสู้เมื่อจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นตูเผ่นก่อน (ฮา) นับว่าเป็นเกมสยองขวัญแนวลอบเร้นก็ได้ครับ ตัวเอกที่เราสามารถบังคับได้ในทุกๆ ตอนจะมีความสามารถที่เรียกว่า Sight Jack หรือชื่อไทยว่า ฝากตา (ข้า) ไว้กับผี... คือการที่เราสามารถกด L2 ดูมุมมองแทนสายตาศัตรูได้ครับ ซึ่งระบบนี้ก็ถูกทำให้ดีขึ้นโดยเมื่อเรากด Sight Jack นี้แล้วหน้าจอ Sight Jack จะถูกแบ่งครึ่งไปในหน้าจอด้านขวาซึ่งก็ดีตรงที่เราไม่จำเป็นต้องกดสลับไปมาแบบภาคก่อนๆ ครับ แต่ยังไงก็ตามการใช้ Sight Jack ก็ยังดูเป็นระบบที่ค่อนข้างจะเสียเวลาอยู่เช่นเดิมครับ ไม่เหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบตีผีเหมือนบางเกม ทางด้านการใช้ระบบจับความเคลื่อนไหว SIXASIS ก็ทำออกมาใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นการเขย่าเพื่อหนีจากศัตรู หรือเติมกระสุนด้วยมือข้างเดียว


      มุมกล้องของเกมนี้ถือว่าอาจจะเป็นจุดอ่อนของเกมนี้เลยทีเดียวครับ จริงๆ แล้วมันก็ไม่แย่นัก แต่ว่าในจุดที่จำเป็นต้องมองหลังตัวเกมก็ไม่มีปุ่มให้มองหลัง เช่น ตอนที่เราต้องพาตัวถ่วง! ไปด้วย แต่เราก็ไม่สามารถมองกลับหลังได้ อนาล็อกขวาเอาไว้เลื่อนมุมกล้องเท่านั้นเอง ถ้ามีกดปุ่มมองหลังได้ก็คงไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่ครับ ถ้าตัวเกมทำระบบพิงกำแพงหรืออะไรก็ตามที่สะดวกกับผู้เล่น เพราะจะแอบดูผีหาจังหวะเผ่นต้องค่อยๆ ดันอนาล็อก ดันแรงไปก็หลุดไปจ๊ะเอ๋กันอีก ถ้าปรับปรุงอีกนิดผมว่าจะทำให้เกมนี้สมบูรณ์แบบกว่าที่เป็นอยู่นี้ครับ และก็ไม่เสียความสยองขวัญด้วยล่ะ


     สรุปเกมนี้ทำได้ถูกใจคอสยองขวัญเช่นผมทีเดียวครับ ไม่ว่าสิ่งที่ผมได้พูดไปตอนแรกๆ เรื่องบรรยากาศสยองขวัญแบบเอเชีย หรือคราบเลือด หรือซากศพน้ำตาเลือดไหล หรืออะไรก็แล้วแต่ เกมนี้ค่อนข้างจะตอบโจทย์เรื่องความกดดันได้ดีทีเดียวครับ ด้วยเรื่องราวที่ชวนขนลุก พิธีกรรมแปลกประหลาด ศัตรูที่ไม่มีวันตาย นางพยาบาลบ้าจี้ (หัวเราะตลอด) รับรองว่าถ้าเล่นคนเดียว (ไม่ต้องปิดไฟก็ได้) ก็ต้องมีขนลุกแน่นอน


มาตามต่อกันในโพสถัดไปกับเกมส์ลำดับที่ 9 นะครับ ;D

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น